ความยุติธรรมที่รอคอยยาวนาน

กรุงเทพฯ – 16 พฤศจิกายน 2566 ศาลฎีกาพิพากษากองทัพบบกเยียวยานาปอย ป่าแส แม่ของชัยภูมิ เป็นเงิน 2,072,400 บาท หลังจากเด็กหนุ่มถูกยิงเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่ทหารที่ด่านตรวจ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อหกปีก่อน

ศาลกลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และให้น้ำหนักว่ากองทัพไทย (จำเลย) มีหน้าที่นำหลักฐานกล้องวงจรปิดมาพิสูจน์สิ่งที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมากองทัพบ่ายเบี่ยง ทั้งที่พนักงานสอบสวนพบว่ากล้อง 6 ตัวจากท้ังหมด 9 ตัวในที่เกิดเหตุใช้งานได้ นอกจากนี้ยังไม่พบลายนิ้วมือชัยภูมิบนวัตถุระเบิดที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าชัยภูมิทำท่าขว้างใส่ จึงต้องยิงเพื่อป้องกันตัว

ศาลพิจารณาว่าเจ้าหน้าที่ยิงชัยภูมิเพื่อสกัดไม่ให้หลบหนีจากการตรวจที่ด่านและไม่ได้มีเจตนายิงให้เสียชีวิต จึงพิจารณาให้กองทัพบกซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดมีความผิดตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่

“วันนี้จะพูดกับลูกได้แล้วว่าพวกเราได้รับความยุติธรรมแล้ว” นาปอยเผยว่าตนรู้สึกดีใจมากหลังรับฟังคำพิพากษา “ที่ผ่านมาชัยภูมิเป็นกำลังหลักสำคัญของครอบครัว พอน้องไม่อยู่ครอบครัวก็ทุกข์ทรมานมาก”

ชัยภูมิ ป่าแส ถูกหยุดรถและตรวจค้นที่ด่านตรวจบ้านรินหลวง จ.เชียงใหม่แล้วยิงเสียชีวิตเมื่อ 17 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่อ้างว่าเด็กหนุ่มเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากชัยภูมิคว้าพร้าและระเบิดมาทำร้ายกลับ

ชัยภูมิเป็นคนกระตือรือร้น ทำกิจกรรมเพื่อสิทธิและวัฒนธรรมชนพื้นเมืองสม่ำเสมอ เป็นสมาชิกกลุ่มงานกิจกรรมชุมชนลาหู่หลายกลุ่มและสอนเยาวชนเล่นดนตรีเพื่อให้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด นอกจากนี้ยังช่วยต่อสู้ให้คนไร้รัฐไร้สัญชาติได้สัญชาติไทย

“เราหวังว่ารัฐบาลในขณะนี้จะลงโทษผู้กระทำความผิด ชดเชยความเสียหายและเยียวยาครอบครัวของชัยภูมิที่นอกเหนือจากที่ศาลสั่ง เพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ดีต่อไปและให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวม” ปรานม สมวงศ์ ผู้อำนวยการ Protection International องค์กรประชาสังคมที่ติดตามคดีกับครอบครัวมาต่อเนื่องอธิบาย